- 0.0 (0)
- |
- ขายได้: 0
ประชาชน
ประชาชนคนไทยส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีความสนใจด้านการเมือง ไม่อยากมีส่วนร่วมทางการเมือง ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการปกครองระบอบประชาธิปไตย ยกตัวอย่างนิสิตนักศึกษาสมัยก่อนกับปัจจุบันจะแตกต่างกันมาก นักศึกษาปัจจุบันจะสนใจแต่วัตถุนิยม ใช้ของฟุ่มเฟือย อีกอย่างประชาชนคนไทยมีค่านิยมการชอบบริโภค ไม่ว่าจะมีการผลิตสินค้าประเภทใดๆ ใหม่เกิดขึ้น ทั้งในและต่างประเทศส่วนใหญ่จะได้รับการต้อนรับจากคนไทยเป็นอย่างดี นับตั้งแต่สินค้าที่มีราคาค่างวดถูก ไปจนกระทั่งสินค้าที่มีราคาแพง ความจริงค่านิยมอันนี้ไม่น่าจะมีอุปสรรค หรือเป็นปัญหาต่อการพัฒนาประเทศ เพราะการที่คนชอบบริโภคเป็นสิ่งที่ดี เพราะจะทำให้การผลิตก้าวหน้า ผู้ประกอบการจะได้มีเงินทุนมาใช้ในการขยายการผลิต ซึ่งก็น่าจะเป็นผลดีต่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจมิไช่หรอกหรือ แต่ข้อเท็จจริงปรากฏว่า ผู้ที่บริโภคสินค้าส่วนหนึ่ง นอกจากเป็นผู้ที่ชอบบริโภคอย่างเดียวแล้ว อีกส่วนหนึ่ง ก็มักจะชอบจับจ่ายใช้สินค้าเกินกำลังของตน ยิ่งการบริการในปัจจุบันผู้ประกอบการ ผู้ผลิต ผู้ขายส่งรายย่อย ใช้ระบบบริการผ่อนส่งผ่านบัตรต่างๆ ดูจะยิ่งส่งเสริมความฟุ่มเฟือยในการบริโภคมากยิ่งขึ้น เมื่อเป็นเช่นนี้ค่านิยมการชอบบริโภคอย่างเดียว น่าจะก่อให้เกิดปัญหาในการพัฒนาประเทศ มากกว่าจะส่งเสริมการพัฒนา เพราะทำให้ประเทศขาดดุลการค้ากับต่างประเทศ
นักการเมือง
จากการรับฟังข่าวสารจากสื่อต่างๆ มีแต่เรื่องของนักการเมืองที่ไม่สร้างสรรค์ ทั้งนี้เป็นเพราะนักการเมืองทำตัวน่ารังเกียจ ไม่เป็นตัวอย่างที่ดีแก่สังคม ถ้าเอ่ยถึงการเมืองมักจะนึกถึงสิ่งที่ไม่ค่อยดี ไม่เป็นมงคล เห็นการเมืองเป็นเรื่องของการแย่งผลประโยชน์ แย่งอำนาจ ทำให้เมื่อมีการเลือกตั้งในทุกระดับ จะไม่ค่อยมีผู้อยากไปใช้สิทธิเลือกตั้ง โดยเฉพาะชาวกรุงเทพฯ ทำให้รัฐธรรมนูญต้องกำหนดให้ทุกคนต้องไปใช้สิทธิเลือกตั้ง เพราะส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่าเลือกไปก็เท่านั้น ไม่เห็นมีอะไรดีขึ้น มีแต่ข่าวการโกงกิน คอรัปชั่น ทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้รับเลือกตั้งครั้งต่อไป ทั้งนี้เพราะนักการเมืองและพรรคการเมืองที่ก่อตั้งขึ้นมา มักไม่ค่อยมั่นคง เพราะบุคคลที่ก่อตัวกันเข้ามาเป็นพรรคการเมือง ไม่ได้มีอุดมการณ์หรือภักดีต่อพรรคที่ตนสังกัด หากแต่มีความภักดีต่อบุคคลคือผู้นำของพรรค และความสัมพันธ์ของผู้นำพรรคกับสมาชิกพรรค มักจะเป็นความสัมพันธ์แบบผู้อุปถัมภ์กับลูกน้อง โดยแต่ละฝ่ายพยายามให้อีกฝ่ายหนึ่งเห็นว่ามีค่า ควรแก่การที่จะเป็นผู้อุปถัมภ์หรือเป็นลูกน้อง ซึ่งถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเห็นว่าการลงทุนของตนที่ลงทุนไปไม่คุ้ม ก็อาจถอนตัวจากการเป็นผู้อุปถัมภ์หรือเป็นลูกน้องได้ ความสัมพันธ์แบบนี้มีการเปลี่ยนแปลง และมีความไม่มั่นคงสูง ผู้อุปถัมภ์คนหนึ่งอาจมีลูกน้องเพิ่มขึ้นมากมาย จากที่เขาได้ตำแหน่งสำคัญที่ควบคุมผลประโยชน์ ซึ่งสามารถแจกจ่ายได้ แต่ถ้าเขาตกอับออกจากตำแหน่งไป หรือหมดอำนาจวาสนา จำนวนบริวารก็จะลดลงอย่างรวดเร็วตามไปด้วย ทั้งนี้เป็นเพราะนักการเมืองส่วนใหญ่ขาดอุดมการณ์ และระเบียบวินัย ทำให้พรรคการเมืองไทยไม่เข้มแข็ง เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศ ทั้งที่อ้างตนว่า เป็นผู้แทนที่ได้รับความไว้วางใจจากประชาชน อ้างตัวว่าเป็นผู้ทรงเกียรติ วันดีคืนดีก็หาเรื่องท้าตีชกต่อยกันในสภา ประกาศตัดขาดความเป็นพี่เป็นน้อง ให้เป็นที่อับอายขายหน้าก็เคยมี
ข้าราชการ
จากสภาวะทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน นอกจากจะมีผลกระทบต่อประชาชนโดยส่วนรวมแล้ว ยังมีผลกระทบถึงข้าราชการด้วยเหมือนกัน ทำให้ข้าราชการส่วนหนึ่งที่มีรายได้น้อย ได้กลายเป็นผู้ที่ทุจริต หรือฉ้อราษฎร์บังหลวง แต่ในที่นี้ไม่ได้หมายความว่า การฉ้อราษฎร์บังหลวงจะเกิดขึ้นเฉพาะข้าราชการที่มีรายได้น้อยเท่านั้น ข้าราชการที่มีรายได้มากก็อาจจะฉ้อราษฎร์บังหลวงได้ แต่ที่ไปเน้นที่ข้าราชการที่มีรายได้น้อย เพราะข้าราชการเหล่านี้ได้รับเงินเดือนและผลประโยชน์เกื้อกูลต่างๆ น้อยมาก เมื่อไม่พอใช้จ่ายก็แสวงหาทางออกโดยการฉ้อราษฎร์บังหลวง มีการประพฤติละเมิดระเบียบวินัยของทางราชการ สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่ต้องมาติดต่อ โดยอาศัยอำนาจหน้าที่ ซึ่งการทุจริตหรือฉ้อราษฎร์บังหลวงโดยใช้อำนาจหน้าที่ ตามสถานที่ราชการบางแห่ง ข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่อาจจะรับสินบนทางอ้อม โดยใช้คนกลางเป็นหน้าม้าเป็นสื่อกลางคอยเสนอ ให้บริการแก่ประชาชนที่มาติดต่อ และคนกลางนั้นเองจะเป็นผู้เรียกร้องเก็บเงินจากผู้มาติดต่อ แล้วนำไปแบ่งกันระหว่างเจ้าหน้าที่คนกลาง กับเจ้าหน้าที่ที่จะให้การบริการ หากประชาชนเข้าติดต่อโดยตรงกับข้าราชการ เจ้าหน้าที่ก็อาจจะแกล้งหน่วงเหนี่ยว ไม่ให้ความสะดวกเท่าที่ควรเหมือนให้คนกลาง ทำให้ประชาชนจำต้องเสียเงินไปโดยมิชอบ วิธีหน่วงเหนี่ยวมีหลายวิธี เช่น บอกว่าเอกสารหลักฐานยังไม่ถูกต้อง ให้ทำใหม่ ทำให้ประชาชนที่มาติดต่อต้องเทียวไปเทียวมาจนเกิดความเบื่อหน่าย ทั้งนี้เพราะระเบียบวิธีปฏิบัติราชการมีความยุ่งยากหลายขั้นตอน จึงต้องซื้อความสะดวกหรือไม่ก็ให้ผลประโยชน์กับข้าราชการเหล่านั้นไป ถ้าไม่ทำเช่นนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะกลั่นแกล้งด้วยวิธีต่างๆ ไม่เอื้อเฟื้อความสะดวก แต่ทั้งนี้มิได้หมายความว่าข้าราชการทุกคน จะเป็นเช่นที่กล่าวมาเสมอไป เพราะยังมีผู้ข้าราชการอีกจำนวนไม่น้อยที่บำเพ็ญตนเป็นที่น่านิยม ไม่ยอมประพฤติไปในทางทุจริตหรือฉ้อราษฎร์บังหลวง ตรงกันข้ามกับใช้ความพยายามค่อยๆ สร้างฐานะของตนขึ้นมาด้วยความเพียร โดยตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติหน้าที่ราชการของตนด้วยความสุจริต มิได้มุ่งหวังที่จะร่ำรวยขึ้นมาโดยทางลัด ดังนั้นถ้ามีข้าราชการที่มีความตั้งใจทำงาน เสียสละ ซื่อสัตย์ เห็นแก่ประโยชน์ของประเทศชาติมากกว่าประโยชน์ส่วนตัว จึงมีส่วนสำคัญในการพัฒนาประเทศให้เจริญขึ้นได้ แต่ยังมีข้าราชการอีกไม่น้อย ที่เป็นตัวถ่วงความเจริญของประเทศ
นักธุรกิจ
หากเอ่ยถึงนักธุรกิจ สังคมมักจะมองว่าเป็นกลุ่มผู้มีอิทธิพลทางการค้า เพราะส่วนใหญ่มักจะอิงกับนักการเมือง และข้าราชการ นักธุรกิจบางคนบางกลุ่มที่ทำธุรกิจผิดกฎหมาย จะมีพฤติกรรมชอบเอารัดเอาเปรียบสังคม ชอบอ้างอิทธิพลหรือสิทธิพิเศษต่างๆ ที่จะไม่ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น การวิ่งเต้นให้สินบนแก่เจ้าพนักงานที่จะไม่ต้องถูกดำเนินคดี หรือให้รับโทษน้อยลง และร่วมมือกับข้าราชการ นักการเมือง ทำการฉ้อราษฎร์บังหลวง (คอร์รัปชั่น) ในการจัดซื้อจัดจ้าง หรือฮั๊วประมูลงานก่อสร้างถนนหนทาง และอาคารสถานที่ของทางราชการ ทำให้รัฐต้องสูญเสียงบประมาณแผ่นดินในแต่ละปี เป็นเงินจำนวนมากมายมหาศาล แทนที่งบประมาณที่เก็บภาษีจากประชาชนได้ใช้อย่างคุ้มค่า กลับรั่วไหลไปกับกลุ่มที่เรียกว่า “สามประสาน” คือ ข้าราชการชั่ว นักการเมืองเลว นักธุรกิจเห็นแก่ได้ ทำให้เป็นอุปสรรคสำคัญในการพัฒนาประเทศให้เจริญขึ้น
บทสรุป
จากปัญหาอุปสรรคซึ่งขวางกั้นการพัฒนาประเทศในช่วงที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่า ระบบและกลไกทางการเมือง แทบจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาบ้านเมืองได้เลย ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน หรือจากการรัฐประหารก็ตาม ในขณะที่สภาพเศรษฐกิจ สังคม เทคโนโลยี มีการเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดด อันเนื่องมาจากกระแสโลกาภิวัฒน์ แต่พัฒนาทางการเมืองเป็นไปอย่างเชื่องช้า ทั้งยังไม่มีการปรับเปลี่ยนกลไกและกระบวนการทางการเมือง ซึ่งเป็นตัวกำหนดนโยบายระดับชาติ ปัญหาทางการเมืองจึงเป็นตัวถ่วงการพัฒนาทางสังคม และเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้นทุกฝ่าย ต้องมีจิตสำนึกที่จะร่วมกันแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างจริงจัง ทั้งนี้เพื่อสังคมประเทศชาติจะได้พัฒนาขึ้นอย่างที่ควรจะเป็นต่อไป..
- 0
- 3 ปีที่ผ่านมา
รายละเอียดเพิ่มเติม
-
รหัสข้อสอบS2810630
-
รหัสข้อสอบS2810630